1. ออกแบบบ้านให้อยู่ห่างบริเวณเสียงดัง
สำหรับบ้านที่มีพื้นที่ดินกว้างขวาง จะสามารถควบคุมเสียงได้ดีขึ้น เพราะการสร้างบ้านที่ดีควรคำนึงถึงระยะห่าง ซึ่งไม่ควรติดกับพื้นที่โดยรอบมากนัก
และควรสร้างบ้านให้อยู่ห่างจากแหล่งกำเนิดเสียงดังให้มากที่สุด โดยในที่โล่งทุกๆ 2 เท่า ของระยะห่างจากแหล่งกำเนิดเสียง สามารถลดความดังของเสียงได้ประมาณ 6 เดซิเบล
2. วางแบบและฟังก์ชันต่างๆ ในบ้านให้เหมาะสม
โดยการออกแบบนั้นอาจจัดวางตำแหน่งพื้นที่ห้องที่ไม่ต้องการความสงบมากนักมาเป็นตัวป้องกันเสียงจากทิศทางต่างๆ เพื่อป้องกันเสียงรบกวนเล็ดลอดสู่พื้นที่ที่ต้องการความสงบ
3. ออกแบบและเลือกใช้วัสดุสำหรับช่องเปิดเพื่อลดเสียง
อาจเลือกการออกแบบประตูหน้าต่างให้ปิดมิดชิด ที่มีรอยต่อของพื้นที่ช่องเปิดน้อยๆ มีการอุดรอยรั่วโดยรอบอย่างแน่นหนา รวมทั้งการเลือกใช้วัสดุประตูหน้าต่าง
เช่น กระจกที่มีความหนาและมีคุณสมบัติซับเสียงได้ดี
4. การใช้วัสดุป้องกันเสียงในผนัง และบริเวณฝ้าเพดาน
การสร้างบ้านสามารถป้องกันเสียงรบกวนได้โดยการใช้วัสดุป้องกันเสียงในผนัง และเพดาน รวมถึงการก่อผนังให้ชนท้องคานเพื่อกันเสียงเล็ดลอดจากห้องอื่น
รวมถึงการเลือกใช้พรมและผ้าม่านที่มีคุณสมบัติดูดซับเสียงได้ จะช่วยลดการรบกวนจากเสียงไม่พึงประสงค์ได้ดีขึ้น
5. เลือกใช้วัสดุลดเสียงสะท้อนภายในห้อง
เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถอยู่อย่างสงบในทุกๆ มุมของบ้าน ดังนั้นเพื่อป้องกันเสียงสะท้อนต่างๆ รบกวนควรติดตั้งวัสดุดูดซับเสียงในห้องซึ่งมีให้เลือกหลายประเภท
เช่น แผ่นใยแก้วหุ้มฝ้า และโฟมซับเสียง
6. สร้างแนวรั้วกันเสียง
การออกแบบรั้วบ้านนั้นให้คำนึงถึงความสัมพันธ์กันดังนี้คือ รั้วยิ่งมีระดับสูง และยิ่งห่างจากบ้าน จะยิ่งช่วยกันเสียงได้ดี โดยความสูงที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 1 เมตร
จะลดเสียงลงได้ประมาณ 1 เดซิเบล แต่การสร้างรั้วให้สูงนั้นจะต้องไม่เกินจากระดับที่กฎหมายกำหนดด้วย
ติดต่อช่าง
